การรักษาโรคสะเก็ดเงิน



ปัจจุบันนี้ โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่แพทย์แผนปัจจุบันกล่าวไว้ว่า เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยจึงเลือกที่จะรักษากับแพทย์ทางเลือก ซึ่งสิ่งที่ท่านได้อ่านอยู่ในขณะนี้ นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถรักษาโรคสะเก็ดเงินได้ครับ นั่นคือการรักษาด้วยการอบยาสมุนไพรของพระอาจารย์หมอเล็ก วัดคลองใหญ่ แต่มีข้อจำกัดอยู่ว่า การรักษาด้วยวิธีนี้ไม่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยที่อยู่ในวัยเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี ผู้ป่วยหญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจนะครับ รายละเอียดต่างๆที่ท่านกำลังจะได้อ่านต่อจากนี้ ได้เขียนจากประสบการณ์ในการรักษาจริงของตัวผมเองที่เคยอยู่กับโรคสะเก็ดเงินมาประมาณ 2 ปี ซึ่งตอนนี้ได้หายเป็นปกติแล้วจากการรักษาด้วยวิธีการอบยาสมุนไพรของพระอาจารย์หมอเล็กครับ

กฎเหล็ก 3 ข้อ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด


ก่อนที่ผู้ป่วยจะทำการรักษาด้วยวิธีนี้ มีอยู่ 3 สิ่ง ที่ผู้ป่วยต้องปฏิตามอย่างเคร่งครัดนะครับ

1. ห้ามผู้ป่วยทานของแสลงเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่แสลงโดยตรง หรืออาหารที่มีส่วนผสมที่ทำมาจากของแสลง

ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อาการของโรคกำเริบ

รายการของแสลง


- แอลกอฮอลล์ทุกชนิด
- สัตว์ปีกทุกชนิด นก เป็ด ไก่ ห่าน (ผู้ป่วยสามารถทานไข่ได้)
- กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก ปลาไม่มีเกล็ด เช่น ปลาดุก ปลากระเบน ปลาไหล ปลาทู ปลาทูน่า (ผู้ป่วยสามารถทานน้ำปลา น้ำมันหอยได้)
- ของหมักของดอง เช่น กะปิ ปลาร้า ปูดอง หน่อไม้ดอง ผักดองเค็มดองเปรี้ยว (ผู้ป่วยสามารถทานซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาวเต้าเจี้ยวได้)
- เห็ดทุกชนิด
- ขนมปัง (แป้งสาลี)
- ขนมจีน
- เนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อแกะ (เนื้อแพะสามารถทานได้)
- เครื่องในสัตว์ทุกชนิด
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม

2. การรักษาใช้วิธีการอบยาสมุนไพร หลังจากที่ผู้ป่วยอบยาเสร็จใหม่ๆ ห้ามผู้ป่วยไปตากพัดลม หรือ เข้าห้องแอร์ ให้นั่งพักจนกว่าร่างกายจะปรับสภาพเข้าสู่ภาวะปกติ อาจใช้เวลาพักหลังจากอบยาเสร็จประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นค่อยอาบน้ำอุ่น

3. ระหว่างที่ผู้ป่วยพักหลังจากอบยาเสร็จให้ผู้ป่วยดื่มเกลือแร่ทดแทนในส่วนที่ร่างกายเสียไป จะเป็นเกลือแร่ชนิดซอง หรือเป็นชนิดพร้อมดื่มก็ได้ และในระหว่างวัน ต้องดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ


ข้อปฏิบัติ 3 ข้อนี้คือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดถ้าหากมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับท่าน ก็ไปเตรียมอุปกรณ์กันได้เลยครับ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

1. มุ้งครอบ (สำหรับผู้ใหญ่ ขนาดนอนได้ 1 คน)
2. ผ้าห่ม(ใช้ประมาณ 3-4 ผืน...ใช้แบบถูกๆที่เค้าเอาไปบริจาคตอนหน้าหนาวก็ได้ครับ เราจะเอามาคลุมมุ้งอีกที)
3. เตาถ่าน+ถ่าน+เศษไม้เอาเขี่ยไฟ
4. เม็ดยาสมุนไพร
5. ผ้าเช็ดหน้า
6. เพลงเพราะๆ (เราจะรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วกว่า การที่ต้องนั่งเฉยๆ อยู่ในมุ้งอันคับแคบที่เต็มไปด้วยควัน)




สูตรในการอบยาสมุนไพร

การอบยาสมุนไพรจะทำการนับเป็นรอบนะครับ โดยใน 1 รอบ ผู้ป่วยจะต้องใช้ยาทั้งหมด 9 เม็ด
ซึ่งผู้ป่วยต้องอบยาสมุนไพร วันละ 1 ครั้ง (เวลาใดก็ได้ แต่ตอนเที่ยงจะดีที่สุด) โดยใช้ยาครั้งละ 1 เม็ด อบเป็นเวลา 20 นาที โดยทำการอบติดต่อกัน 3 วัน แล้วหยุดพัก 1 วัน ทำแบบนี้จนใช้ยาครบ 9 เม็ด เท่ากับว่า ครบ 1 รอบ หลังจากนั้นให้ผู้ป่วยหยุดพักการอบยาเป็นเวลา 10 วัน แล้วเริ่มอบรอบที่ 2 นะครับ ซึ่งปฎิบัติเหมือนรอบแรกทุกอย่างครับ




ขั้นตอนการอบ

1. หาที่โล่งๆ นะครับ ปูผ้าไว้สำหรับนั่ง (อย่าอบในบ้านนะครับ กลิ่นควันมันจะไปติดตามพวกโซฟา ผ้าม่าน ส่วนผู้ที่อยู่อพาร์ทเม้นท์หรือหอพัก ถ้ามีระเบียงก็อบที่ระเบียง ถ้าไม่มี อบบริเวณใกล้หน้าต่างมากที่สุดนะครับ)
2. กางมุ้งบริเวณที่เราจะอบยา
3. เอาผ้าห่มคลุมมุ้งให้รอบ เผื่อช่องระบายอากาศบริเวณชายมุ้งด้านล่างเล็กน้อย
4. ก่อไฟ..ใช้ถ่านไม่ต้องมาก รอสักพักให้ไฟไหม้ถ่านให้เสมอกันก่อน สังเกตถ่านให้เป็นถ่านแดงๆ ก็ใช้ได้
5. เอาเตาถ่านที่ก่อไฟเตรียมไว้ไปใส่ในมุ้ง
6. ผู้ป่วยก็เข้าไปในมุ้ง เอาเม็ดยาสมุนไพร ใส่ไปในเตาถ่านนั้นเลยครับ เผาเม็ดยาทั้งก้อน ไม่ต้องแกะเชือกที่พันไว้ออก พยายามนั่งใกล้ๆเตานะครับ สูดควันที่เผานั้นด้วย ถ้ารู้สึกร้อนเกินไปก็ขยับออกห่างเตาหน่อย ใช้เศษไม้คอยเขี่ยก้อนยาให้ไหม้จนหมดด้วยนะครับ อบเป็นเวลาประมาณ 20 นาที หรือจนกว่ายาไหม้หมดก้อนก็เป็นอันเสร็จพิธี
*ในขณะที่อบตัวอยู่ในมุ้ง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือผู้ป่วยต้องประเมินตัวเองด้วยนะครับ ทำเท่าที่ทำไหว อย่าฝืนมากไป ให้ยึดถือหลัก "ทางสายกลาง" เป็นสำคัญ เพราะสภาพร่างกายของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ขอให้ยึดตัวท่านเองเป็นมาตรฐาน ทำเท่าที่ทำไหว ในช่วงที่ท่านนำเม็ดยาลงไปเผาใหม่ๆ จะค่อนข้างแสบตา แสบจมูก ก็ให้นำผ้าเช็ดหน้ามาติดตาปิดจมูกไว้ก่อนก็ได้ หรือหากขณะอบยาอยู่ รู้สึกอึดอัด ก็ให้ท่านนอนราบลงกับพื้น แล้วโผล่ศีรษะออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์สักครู่แล้วค่อยกลับเข้าไปใหม่ก็ได้ (ไม่ต้องออกมาทั้งตัวนะครับ) ทั้งนี้ทั้งนั้นให้ท่านประเมินจากสภาพร่างกายของท่านเองว่าไหวแค่ไหน ใช้ตัวท่านเองเป็นมาตรฐาน ตรงนี้สำคัญมากนะครับ*

ใช้ไฟประมานนี้นะครับ


คำแนะนำเพิ่มเติม เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน และผู้ป่วยที่อาการของโรคอยู่ในขั้นรุนแรง แต่ผู้ป่วยที่ต้องการให้การรักษาเห็นผลเร็วขึ้นก็สามารถปฏิบัติตามได้นะครับ

- ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนครึ่งลูกก่อนเข้ามุ้งอบยา และดื่มที่เหลือหลังจากอบยาเสร็จแล้ว

- ให้ผู้ป่วยนำใบพลูจำนวนเท่าอายุ แต่ไม่เกิน 45 ใบ มาต้มกับน้ำเปล่าจนเดือดและนำเข้าไปจิบ ในระหว่างที่อบยาอยู่ในมุ้งค่อยๆจิบเรื่อยๆ หากดื่มไม่หมดสามารถนำมาอุ่นเพื่อใช้ดื่มระหว่างการอบยาครั้งถัดไปได้

ภาพนี้เป็นพัฒนาการที่ได้จากการรักษา ขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่



คำแนะนำเพิ่มเติม 2 กรณีที่ใกล้หายแล้ว (ดูรูปภาพ 1 ประกอบนะครับ) การอบยา อาจลดลง เหลือ อบ 2 วัน หยุดพัก 1 วัน ได้นะครับ หากลักษณะแผลมีลักษณะเหมือนกับ รูปที่ 2 เมื่อครบรอบ ผู้ป่วยหยุดอบยา
ได้เลยครับ หายแล้ว.....หลังจากนี้ งดของแสลงต่อเนื่องไปอีก 6 เดือนนะครับ









หากผู้ป่วยท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 


08-6688-2165 โอ่งครับ


Line ID. 0866882165